ระบบสแกนม่านตา

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 บังคับให้ผู้ใช้งานระบบสัมผัสอย่างลายนิ้วมือหันมาใช้ระบบที่ไม่ต้องใช้การสัมผัสมากขึ้น โดยมีระบบจดจำใบหน้าเป็นผู้นำในตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ทว่าความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพในการใช้งานเมื่อสวมใส่หน้ากากอนามัยทำให้เริ่มมีการพิจารณาระบบสแกนม่านตาเข้ามาในตลาด

หน่วยงานวิจัยการตลาดคาดการณ์ว่า ความต้องการในการใช้ระบบสแกนม่านตาจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถึงแม้เราจะไม่สามารถเชื่อการคาดการณ์นี้ได้ทั้งหมด แต่ระบบนี้ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ซับซ้อนเกินกว่าผู้ใช้งานทั่วไปจะเข้าถึงอีกต่อไป

“ในอดีต ระบบจดจำใบหน้าเป็นที่นิยมเนื่องจากใช้งานง่าย” บ็อบบี้ เวอร์มา ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Princeton Identity อธิบาย “ขณะนี้หลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความสนใจกับระบบสแกนม่านตาด้วย 2 เหตุผลหลัก คือ เพราะสถานการณ์การระบาดทำให้คนต้องใส่หน้ากาก และเพราะระบบจดจำใบหน้ามักมีการแบ่งแยกคนผิวสี”

นายจ้างหลายคนที่ Princeton Identity ร่วมงานด้วยกำลังหันหลังให้ระบบจดจำใบหน้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน พวกเขาไม่ต้องการแบ่งแยกหรือทำให้พนักงานผิวสีรู้สึกถึงการถูกแบ่งแยก ระบบสแกนม่านตาจึงไม่เพียงทำให้ระบบของพวกเขาปลอดภัยขึ้นแต่ยังช่วยให้พวกเขามีบรรยากาศในการทำงานที่ดีขึ้นด้วย

ในขณะที่ความต้องการใหม่นี้กำลังเติบโตขึ้นในอุตสาหกรรม มีกลุ่มเฉพาะสามกลุ่มที่เป็นผู้ใช้ระบบสแกนม่านตาในการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลสำคัญอยู่ ดังนี้

Government หน่วยงานรัฐบาล

การใช้ระบบสแกนม่านตาถูกใช้ในหน่วยงานรัฐบาลด้วยสาเหตุนานาประการ อนึ่งสถานที่ราชการหลายแห่งต้องการความปลอดภัยสูงเนื่องจากปัจจัยด้านความมั่นคงของชาติ และรัฐบาลยังเป้นผู้ดูแลข้อมูลจำนวนมาก ต่างจากบริษัททั่วไปที่ดูแลเพียงข้อมูลของพนักงาน แต่รัฐต้องคำนึงถึงประชากรทั้งหมด

“เมื่อต้องการทั้งความปลอดภัยระดับสูงและความสะดวกในการใช้งาน ระบบสแกนม่านตาจึงเป็นทางเลือกที่ต้องการมากกว่า” เวอร์มากล่าวต่อ “การระบุม่านตาใช้พื้นที่ในฐานข้อมูลน้อยกว่าการจดจำใบหน้าและลายนิ้วมือ ทำให้การตรวจสอบตัวตนด้วยฐานข้อมูลระดับชาติจึงมักใช้ม่านตามากกว่ารูปแบบอื่น และวิธีนี้ยังมีความแม่นยำสูงสุดอีกด้วย”

หน่วยงานแพทย์

เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกใช้อยู่ในอุตสาหกรรมการแพทย์ต้องคำนึงถึงเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ซึงไม่สามารถใช้นิ้วหรือเปิดใบหน้าได้ เช่น การสวมชุดป้องกัน PPE หลังโควิด-19 ระบาด เพราะฉะนั้นการยืนยันตัวตนด้วยไบโอแมทริกซ์สำหรับผู้สวมชุด PPE ทั้งร่างกายจึงเหลือเพียงระบบสแกนม่านตา

อุตสาหกรรมยา

อุตสาหกรรมยานั้นเหมือนกับในอุตสาหกรรมการแพทย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใส่ถุงมือและหน้ากากในห้องวิจัย ระบบสแกนม่านตาจึงเหมาะสมกับการใช้งาน เพราะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าและออกจากห้องวิจัยต่าง ๆ ได้แม้จะใส่ชุดคลุมทั้งตัวหรือแม้กระทั่งสวมแว่นอยู่

ข้อจำกัดการใช้ระบบสแกนม่านตา

ระบบสแกนม่านตาที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้และมีความแม่นยำสูงก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ เวอร์มากล่าวว่า ผู้ใช้สามารถใช้งานระบบจดจำใบหน้าได้ง่ายเพราะมีกล้องบนตัวอุปกรณ์ที่ใช้อยู่แล้ว แต่ระบบสแกนม่านตาต้องใช้อุปกรณ์อื่นเสริม ทำให้ผู้ผลิตต้องลงทุนและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การใช้การสแกนม่านตายังใช้ยากกว่าระบบจดจำใบหน้าอีกด้วย

“อุปสรรคอีกประการหนึ่งที่คนจำนวนมากไม่ต้องการใช้ระบบสแกนม่านตาเพราะระบบจดจำใบหน้าถูกใช้อย่างแพร่หลายมากกว่า” เวอร์มาเสริม “เราสามารถแยกแยะใบหน้าได้จากระยะที่ไกลกว่า ในขณะที่ระบบสแกนม่านตาต้องใช้ระยะที่เหมาะสม ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่าในการหัดใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ที่มา: www.asmag.com

แปลโดย: Pitsinee APS