โดรนได้ถูกพัฒนาให้เคลื่อนที่เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และสามารถยกสัมภาระที่มีน้ำหนักมากขึ้นในระยะที่ไกลขึ้นได้ โดรนจึงกลายเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งหากนำมาใช้เป็นอาวุธ ด้วยเหตุนี้กองทัพจึงพัฒนามาตรการต่อต้านโดรน รวมถึงแนวทางใหม่ที่จะยิงโดรนด้วยดาวกระจาย
การยิงโดรนให้ตกจากท้องฟ้าอย่างปลอดภัยด้วยไรเฟิลสามารถทำได้ แต่ไม่ง่ายและยังไม่น่าไว้ใจอีกด้วย กองทัพทั่วโลกจึงลงเงินเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านโดรน ขณะที่โดรนก็พยายามพัฒนาประสิทธิภาพเช่นกัน โดยเริ่มจากกระสุนที่ยิงตาข่ายเมื่อโดรนอยู่ในพิสัย การใช้เลเซอร์ระยะไกลที่สามารถติดตามและโจมตีโดรนอย่างชาญฉลาดก่อนที่พวกมันจะเป็นภัยคุกคาม
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Core 77 ชี้ว่า หน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ (DARPA) ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาวิธีใหม่ในการต่อต้านโดรนจากวิดีโอโดรนตกหลังถูกยิงด้วยลูกบอลสายรุ้งในงานเทศกาลดนตรีเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความคล่องแคล่วและความมั่นคงของโดรนหลายเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับใบพัดทั้งหมดที่หมุนพร้อม ๆ กัน ความขัดข้องของเครื่องยนต์แม้เพียงตัวเดียวจึงเป็นจุดอ่อนของมัน นักวิจัยจึงพบวิธีทำให้โดรนตกอย่างปลอดภัยด้วยการทำให้โดรนเสียหายบางส่วน เพราะแม้จะเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลให้ภารกิจหลักหรือแผนการบินของโดรนไม่สำเร็จ
X band radar เป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อต้านโดรน ทำหน้าที่ตรวจจับ ระบุ และติดตามโดรนไร้คนขับ โดยทำการคาดเดาเส้นทางการบินด้วยระบบอัตโนมัติ จากนั้นจะเปิดใช้งานเครื่องสกัดกั้นโดรนตัวใดที่สามารถเข้าถึงโดรนได้เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ และแทนที่จะใช้เลเซอร์ กระสุน หรืออวน มันใช้วิธีล่าสุดในการขจัดภัยคุกคามด้วยการยิงดาวกระจายที่มีความเหนียวและแข็งแรงให้พุ่งกระจายออกกลางอากาศ เพื่อเพิ่มโอกาสที่เครื่องยนต์และใบพัดของโดรนจะถูกรบกวนและทำให้โดรนตกในที่สุด
การใช้ดาวกระจายในภารกิจต่อต้านโดรนมีประโยชน์มากมาย เนื่องจากมีราคาถูกกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหากชิ้นส่วนที่ยิงพลาดเป้าตกลงบนพื้น และปลอดภัยกว่าในกรณีที่กำหนดเป้าหมายผิดพลาด แม้จะราคาถูกกว่าแต่เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพโดยรวมที่สามารถเข้าถึงโดรนเป้าหมายเพื่อสกัดได้แล้ว คงเดาได้ว่ามันไม่ได้ด้อยประสิทธิภาพไปกว่าเครื่องมืออื่นๆ ในกองทัพเลย
ที่มา: www.gizmodo.com
แปลโดย: Pitsinee APS